โรคมือเท้า ปาก หรือที่เรียกว่า Hand Foot and Mouth disease หรือเรียกย่อว่า HFMD เป็นโรคติดเชื้อไวรัสชนิดเฉียบพลัน เกิดตุ่มน้ำใสที่ปาก มือ เท้า ก้น และบริเวณอวัยวะเพศ เชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุมีหลายชนิดได้แก่ Coxackievirus A type 16 (a16) ซึ่งพบบ่อยที่สุด นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากเชื้อชนิด Coxackievirus A5,A7A9,A10,B2 และ B5 ที่น่ากลัวที่สุดคือโรค มือ เท้า ปาก ที่เกิดจากเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 (Enterovirus 71) เนื่องจากพบว่ามีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วยได้บ่อย และทำให้ผู้ป่วยเด็กเสียชีวิตได้ รวมทั้งปรากฏว่ามีการระบาดเกิดขึ้นในหลายภูมิภาคของโลกต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน เชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 เป็นเชื้อที่อาจพบได้ในลำไส้ ก่อให้เกิดอาการในผู้ติดเชื้อระยะแรกคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือมีไข้ ปวดศีรษะ และอาเจียนร่วมด้วย อัตราตายจะต่ำ ถ้าผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและการรักษาที่เหมาะสม แต่ในบางรายมีอาการรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อน อาจก่อให้เกิดโรคที่รุนแรงตามมาได้ เช่น ทำให้เกิดโรคสมองอักเสบ โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และทำให้เด็กเสียชีวิตการระบาดของเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 พบได้ทั่วโลก โดยเฉพาะในเขตร้อนและเขตอบอุ่น และพบมากในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง
การแพร่ติดต่อของโรค
การติดต่อส่วนใหญ่เกิดจากได้รับเชื้อเข้าสู่ปากโดยตรง โรคแพร่ติดต่อง่ายในช่วงสัปดาห์แรกของการป่วย โดยอาจติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มพองและแผล หรืออุจจาระของผู้ป่วย และอาจเกิดจากการไอจามรดกันได้ เชื่อไวรัสมักจะออกมาในสัปดาห์แรก แต่อาจจะออกทางอุจจาระได้นาน 2-3 เดือน ฉะนั้นหลังล้างก้นเด็กทุกครั้ง ควรล้างมือให้สะอาด แต่การติดต่อในระยะนี้จะเกิดขึ้นได้น้อย ถ้าผู้ปกครองพบว่าบุตรหลานเป็นโรคนี้ควรจะหยุดไปเนอสเชอรี่ หรือโรงเรียนจนกว่าตุ่มแผลต่าง ๆจะหาย จะได้ไม่ไปแพร่เชื้อให้กับเด็กคนอื่นด้วย
ระยะฟักตัว ประมาณ 4–6 วัน ถ้าเป็นเด็กเล็กจะปรากฏอาการ 100 % ถ้าเป็นเด็กนักเรียนอาจจะแสดงอาการ 38 % ผู้ใหญ่แสดงอาการ 11%
อาการของโรค
การติดต่อส่วนใหญ่เกิดจากได้รับเชื้อเข้าสู่ปากโดยตรง โรคแพร่ติดต่อง่ายในช่วงสัปดาห์แรกของการป่วย โดยอาจติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มพองและแผล หรืออุจจาระของผู้ป่วย และอาจเกิดจากการไอจามรดกันได้ เชื่อไวรัสมักจะออกมาในสัปดาห์แรก แต่อาจจะออกทางอุจจาระได้นาน 2-3 เดือน ฉะนั้นหลังล้างก้นเด็กทุกครั้ง ควรล้างมือให้สะอาด แต่การติดต่อในระยะนี้จะเกิดขึ้นได้น้อย ถ้าผู้ปกครองพบว่าบุตรหลานเป็นโรคนี้ควรจะหยุดไปเนอสเชอรี่ หรือโรงเรียนจนกว่าตุ่มแผลต่าง ๆจะหาย จะได้ไม่ไปแพร่เชื้อให้กับเด็กคนอื่นด้วย
ระยะฟักตัว ประมาณ 4–6 วัน ถ้าเป็นเด็กเล็กจะปรากฏอาการ 100 % ถ้าเป็นเด็กนักเรียนอาจจะแสดงอาการ 38 % ผู้ใหญ่แสดงอาการ 11%
อาการของโรค
หลังจากได้รับเชื้อ 3-6 วัน ผู้ติดเชื้อจะเริ่มแสดงอาการป่วย เริ่มด้วยมีไข้ต่ำ ๆ อ่อนเพลีย ต่อมาอีก 1–2 วัน มีอาการเจ็บปาก และไม่ยอมรับประทานอาหาร เนื่องจากมีตุ่มแดงที่ลิ้น เหงือก และกระพุ้งแก้ม ตุ่มนี้จะกลายเป็นตุ่มพองใส ซึ่งบริเวณรอบ ๆ จะอักเสบและแดง ต่อมาจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้น ๆ จะพบตุ่มหรือผื่น(มักไม่คัน)ที่ฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า และอาจพบที่ก้นด้วย อาการจะทุเลาและหายเป็นปกติภายใน 7–10 วัน
เอนเทอโรไวรัส 71 อาการที่ควรเฝ้าสังเกต คือ ซึมลง เกร็ง ปวดศีรษะมาก อาเจียนรุนแรง ปวดตามกล้ามเนื้ออย่างมาก หรือมีอาการหอบเหนื่อย ถ้าเด็กเริ่มมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ควรรีบกลับไปพบแพทย์โดยด่วน
เอนเทอโรไวรัส 71 อาการที่ควรเฝ้าสังเกต คือ ซึมลง เกร็ง ปวดศีรษะมาก อาเจียนรุนแรง ปวดตามกล้ามเนื้ออย่างมาก หรือมีอาการหอบเหนื่อย ถ้าเด็กเริ่มมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ควรรีบกลับไปพบแพทย์โดยด่วน
การรักษา
โรคนี้ไม่มียารักษาโดยเฉพาะ แพทย์จะให้ยารักษาตามอาการ เช่นยาลดไข้ ยาแก้ปวด ควรเช็ดตัวเพื่อลดไข้เป็นระยะ และให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารอ่อน ๆ รสไม่จัด ดื่มน้ำผลไม้ และนอนพักผ่อนมาก ๆ ถ้าเป็นเด็กอ่อน อาจต้องป้อนนมแทน การดูดจากขวด การรับประทานนมที่เย็น อมน้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ หรือรับประทานไอศครีมจะทำให้แผลไม่ค่อยเจ็บ และเด็กยังได้น้ำและสารอาหารบ้าง เด็กเล็ก ๆ ถ้ามีแผลในปากมาก และไม่ยอมกินอะไรและเริ่มมีอาการขาดน้ำ อาจต้องอยู่ในโรงพยาบาล เพื่อให้น้ำเกลือ เมื่ออาการเจ็บแผลดีขึ้น เด็กเริ่มกินได้ ก็กลับบ้านได้ ตามปกติโรคมักไม่รุนแรงและไม่มีอาการแทรกซ้อน แต่ไวรัสบางชนิดอาจจะทำให้มีอาการรุนแรงได้ จึงควรสังเกตอาการของเด็กอย่างใกล้ชิด หากพบมีไข้สูง ซึม ไม่ยอมทานอาหารและดื่มน้ำ อาเจียนบ่อย หอบ แขน ขา อ่อนแรง อาจจะเกิดภาวะสมองหรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือน้ำท่วมปอด ซึ่งอาจรุนแรงถึงเสียชีวิตได้ ต้องรีบพาไปโรงพยาบาลทันที
การป้องกันโรค
โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่ป้องกันได้ด้วยการรักษาสุขอนามัย ผู้ปกครองควรแนะนำบุตรหลานและผู้เลี้ยงดูเด็กให้รักษาความสะอาด ตัดเล็บให้สั้น หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ โดยเฉพาะหลังการขับถ่ายและก่อนการรับประทานอาหาร รวมทั้งการใช้ช้อนกลาง และหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่นแก้วน้ำ หลอดดูด ผ้าเช็ดหน้าและผ้าเช็ดมือ เป็นต้น
สถานรับเลี้ยงเด็กและโรงเรียนอนุบาล ต้องจัดให้มีอ่างล้างมือและส้วมที่ถูกสุขลักษณะของสถานที่และอุปกรณ์เครื่องใช้ให้สะอาดอยู่เสมอ รวมถึงการกำจัดอุจจาระเด็กให้ถูกต้องด้วย หากพบเด็กป่วยต้องรีบป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ไปยังเด็กคนอื่น ๆ ควรแนะนำผู้ปกครองให้รีบพาเด็กไปพบแพทย์ และหยุดรักษาตัวที่บ้านประมาณ 7 วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ ระหว่างนี้ไม่ควรพาเด็กไปในสถานที่แออัด เช่นสนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ และห้างสรรพสินค้า และผู้เลี้ยงดูเด็กต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระเด็กป่วย
หากมีเด็กป่วยจำนวนมาก อาจจำเป็นต้องปิดสถานที่ชั่วคราว (1–2 สัปดาห์) และทำความสะอาดเชื้อโรค โดยอาจใช้สารละลายเจือจางของน้ำยาฟอกขาว 1 ส่วน ผสมกับน้ำ 30 ส่วน
โรคนี้ไม่มียารักษาโดยเฉพาะ แพทย์จะให้ยารักษาตามอาการ เช่นยาลดไข้ ยาแก้ปวด ควรเช็ดตัวเพื่อลดไข้เป็นระยะ และให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารอ่อน ๆ รสไม่จัด ดื่มน้ำผลไม้ และนอนพักผ่อนมาก ๆ ถ้าเป็นเด็กอ่อน อาจต้องป้อนนมแทน การดูดจากขวด การรับประทานนมที่เย็น อมน้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ หรือรับประทานไอศครีมจะทำให้แผลไม่ค่อยเจ็บ และเด็กยังได้น้ำและสารอาหารบ้าง เด็กเล็ก ๆ ถ้ามีแผลในปากมาก และไม่ยอมกินอะไรและเริ่มมีอาการขาดน้ำ อาจต้องอยู่ในโรงพยาบาล เพื่อให้น้ำเกลือ เมื่ออาการเจ็บแผลดีขึ้น เด็กเริ่มกินได้ ก็กลับบ้านได้ ตามปกติโรคมักไม่รุนแรงและไม่มีอาการแทรกซ้อน แต่ไวรัสบางชนิดอาจจะทำให้มีอาการรุนแรงได้ จึงควรสังเกตอาการของเด็กอย่างใกล้ชิด หากพบมีไข้สูง ซึม ไม่ยอมทานอาหารและดื่มน้ำ อาเจียนบ่อย หอบ แขน ขา อ่อนแรง อาจจะเกิดภาวะสมองหรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือน้ำท่วมปอด ซึ่งอาจรุนแรงถึงเสียชีวิตได้ ต้องรีบพาไปโรงพยาบาลทันที
การป้องกันโรค
โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่ป้องกันได้ด้วยการรักษาสุขอนามัย ผู้ปกครองควรแนะนำบุตรหลานและผู้เลี้ยงดูเด็กให้รักษาความสะอาด ตัดเล็บให้สั้น หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ โดยเฉพาะหลังการขับถ่ายและก่อนการรับประทานอาหาร รวมทั้งการใช้ช้อนกลาง และหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่นแก้วน้ำ หลอดดูด ผ้าเช็ดหน้าและผ้าเช็ดมือ เป็นต้น
สถานรับเลี้ยงเด็กและโรงเรียนอนุบาล ต้องจัดให้มีอ่างล้างมือและส้วมที่ถูกสุขลักษณะของสถานที่และอุปกรณ์เครื่องใช้ให้สะอาดอยู่เสมอ รวมถึงการกำจัดอุจจาระเด็กให้ถูกต้องด้วย หากพบเด็กป่วยต้องรีบป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ไปยังเด็กคนอื่น ๆ ควรแนะนำผู้ปกครองให้รีบพาเด็กไปพบแพทย์ และหยุดรักษาตัวที่บ้านประมาณ 7 วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ ระหว่างนี้ไม่ควรพาเด็กไปในสถานที่แออัด เช่นสนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ และห้างสรรพสินค้า และผู้เลี้ยงดูเด็กต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระเด็กป่วย
หากมีเด็กป่วยจำนวนมาก อาจจำเป็นต้องปิดสถานที่ชั่วคราว (1–2 สัปดาห์) และทำความสะอาดเชื้อโรค โดยอาจใช้สารละลายเจือจางของน้ำยาฟอกขาว 1 ส่วน ผสมกับน้ำ 30 ส่วน
Mens titanium watches | TITaniumS.com
ตอบลบIn addition to the two mens titanium earrings of the standard watches, the titanium eyeglass frames T-20 titanium hair clipper Classic 2020 edge titanium watches feature a six-piece design titanium trim reviews with a unique pattern with a gold band